[ Review ] : พอกันที PM 2.5 !! หมดปัญหาอากาศเสีย ด้วย เครื่องฟอกอากาศ Blueair รุ่น 480i


สวัสดีครับเพื่อนๆ กลับมาเจอกันอีกแล้ว ช่วงนี้หลายๆคน น่าจะเห็นข่าวกันว่า เจ้าฝุ่น PM 2.5 กลับมาทำลายปอดเราอีกแล้ว โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพ คนที่อยู่คอนโด หรือบ้าน ที่ใกล้กับสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงกับฝุ่นควันแบบเฟรม จะให้ใส่หน้ากากอนามัยอยู่ในคอนโดตลอดเวลา ก็คงลำบากน่าดู



ที่เห็นคือสภาพแวดล้อมคอนโดของเฟรม คือแบบ...ติดห้าง ติดตลาด ติดถนนใหญ่ แล้วไหนจะติดการก่อสร้างรถไฟฟ้า BTS อีก ฝุ่นควันแต่ละวัน โจมตีหนักมากกก

พอดีวันก่อน เลื่อนไปเจอสินค้าตัวนึงในเฟสบุ๊ค เป็นเครื่องกรองอากาศ ที่สามารถกำจัดฝุ่น PM2.5 ได้ด้วย บวกกับความแพ้ฝุ่นง่ายของเฟรม เลยรีบจัดมาอย่างไว


และตัวที่เฟรมจะมารีวิวในวันนี้ก็คือ เครื่องฟอกอากาศ Blueair รุ่น 480i นั่นเอง ต้องบอกก่อนว่าแบรนด์ของ BlueAir เค้าขึ้นชื่อเรื่องเครื่องฟอกอากาศมากๆ มีให้เลือกหลากหลายรุ่น ตามความเหมาะสมและการใช้งานของเราได้ดีเลย



เปิดกล่องออกมาก็จะเจอเครื่องฟอกอากาศ ขนาด 20x11x23 cm. ที่ดีไซน์ออกมาดูเรียบแบบ Classic มากๆ ตั้งไว้ส่วนไหนก็ดู Cool แน่นอน และข้อดีอีกอย่างของตัวนี้คือ เค้าเป็นเครื่องฟอกอากาศเชื่อม Wi-Fi ได้ด้วย


หลายๆคนอาจจะยังสงสัยว่า เครื่องฟอกอากาศ Blueair ดีไหม ต่างจากตัวอื่นยังไง เรามาดูกัน


คุณสมบัติโดดเด่น
• ประสิทธิภาพการฟอก ตามมาตรฐาน True Hepa
• สามารถฟอกอากาศได้ที่ 99.97% ที่อนุภาค 0.1 ไมครอน
• ระบบกรองอากาศแบบ HEPASilentTM ของ Blueair สามารถยับยั้งป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อรา เชื้อโรค แบคทีเรีย ได้เป็นอย่างดี รวมถึงฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ ควันบุหรี่และไวรัส  
• สามารถใช้งานกับ Wifi และ เชื่อมต่อกับ App. Blueair Friend ได้ เพื่อแสดงฟังก์ชั่นต่างๆ บนหน้าจอมือถือ เช่น ค่า PM2.5 ค่า Voc และฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้ 
• มีตัวเตือนเพื่อเปลี่ยนไส้กรอง และมีไฟโชว์ค่า Voc และ PM2.5
• ปรับระดับแรงลม 3 ระดับ และปรับโหมดอัตโนมัติได้
• ระดับความดัง 32-62 dB (ระดับหนึ่งเงียบมากแทบไม่มีเสียง - ระดับ 3 จะมีเสียงลมดังออกมา)
• ตัวเครื่องทำด้วยเหล็กกล้าเคลือบพิเศษ (galvanized steel) แข็งแรงทนทาน สามารถเคลื่อนที่ได้ง่าย
• มีล้อ สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก


ฟังก์ชั่นปุ่มใช้งาน จะอยู่ด้านบนตัวเครื่อง มีฝาสามารถเปิด-ปิดได้ เวลากลางคืนก็สามารถปิดฝาไม่ให้แสงของปุ่มรบกวนขณะนอนหลับ


ภายในกล่องจะมีคู่มือการใช้งาน และสายปลั๊กมาให้ เชื่อมต่อง่ายได้ด้วยตัวเอง


ช่องเสียบสายไฟจะอยู่ด้านล่างของตัวเครื่องนะครับ เพื่อความสวยงามและไม่ให้สายเกะกะรกสายตา

เมื่อเสียบปลั๊กและเปิดเครื่อง ไฟ LED ก็จะติดขึ้นเป็นสีน้ำเงิน พร้อมใช้งาน

ปุ่มต่างๆของรุ่นนี้ จะเป็นระบบสัมผัสทั้งหมดนะครับ แตะเบาๆ ก็สามารถใช้งานปุ่มต่างๆ ได้แล้ว


ดูฟังก์ชั่นการทำงานไปคร่าวๆแล้ว เรามาดูภายในตัวเครื่อง และหลักการทำงานของ เครื่องฟอกอากาศ Blueair รุ่น 480i กันต่อดีกว่า


ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง เราจะสามารถเปิดฝาหลังได้ เพื่อทำความสะอาด ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ใส่แผ่นกรองอากาศเอาไว้ด้วย

มีวิธีเปลี่ยนแผ่นกรองมาให้ด้วยครับ ทำได้ง่ายๆไม่กี่ขั้นตอน

แผ่นกรองสามารถเปลี่ยนได้ง่าย ดึงออกมาทั้งกล่องได้เลย สังเกตุเวลาใส่แผ่นกรองให้ด้านสีดำหันออกด้านนอกนะครับ หรือดูที่ลูกศรสีดำจะต้องชี้เข้าด้านในนั่นเอง


ตัวแผ่นกรอง เป็นแบบ SmokeStop อนุภาคที่มีถ่านกัมมันต์สำหรับการใช้งานในห้องที่จำเป็นต้องมีการขจัดมลภาวะในรูปแบบของแก๊สหนัก เช่น ควันบุหรี่ หรือสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOC)

มีเทคโนโลยีการกรอง HEPASilent รวมการกรองแบบไฟฟ้าสถิตและการกรองโดยวิธีทางกลเข้าไว้ด้วยกัน


ตัวปล่อยประจุลบ ที่จะทำให้อนุภาคสารมลพิษติดกับแผ่นกรองแน่นขึ้น

มีการยึดเกาะด้วยไฟฟ้าสถิต ทำให้อนุภาคที่ล่องลอยในอากาศผ่านเข้าไปในห้องเครื่อง เพื่อรับการชาร์จประจุไฟฟ้าก่อน ทำให้อนุภาคสารมลพิษติดกับแผ่นกรองอย่างง่ายดาย จับได้แม้แต่อนุภาคที่ละเอียดที่สุด เช่น ควันบุหรี่

นอกจากนี้ ตัวแผ่นกรองยังมีโครงสร้างเป็นรูพรุนสูง ผลิตจากถ่านกัมมันต์เพื่อจับก๊าซและกลิ่นไม่พึ่งประสงค์


หลักการทำงาน
1. อากาศถูกดึงเข้ามาภายในเครื่อง ด้วยแหล่งกำเนิดลมที่มีประสิทธิภาพสูงและเงียบเป็นพิเศษ
2. อนุภาคสิ่งสกปรก มลพิษในอากาศจะถูกดึงและถูกดักจับที่แผ่นกรองอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ปล่อยอากาศที่ได้รับการกรองเรียบร้อยแล้ว เป็นอากาศบริสุทธิ์ออกมา

มาถึงไฮไลท์ที่โดดเด่นของเจ้าเครื่องฟอกอากาศตัวนี้อีกอย่างนึงคือ เค้าสามารถเชื่อมต่อ WIFI และใช้แอปพลิเคชั่นควบคุมการทำงานของเครื่องได้

โดยการเชื่อมต่อผ่านแอปฯ ที่มีชื่อว่า Blueair Friend ใช้ได้ทั้งระบบ iOS และ Androind

โหลด Blueair Friend คลิก


ผลลัพธ์และความรู้สึกหลังใช้งาน
โดยส่วนตัวหลังจากที่ได้ทดลองใช้มาอาทิตย์นึง ที่เห็นได้ชัดมากๆเลยคือ เมื่อก่อนเฟรมจะคัดจมูกและจามบ่อยมาก จมูกแดงทั้งวัน ฝุ่นในห้องก็เยอะ ดูดเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที ด้วยความที่ห้องของเราติดถนนใหญ่ เลยโดนทั้งควันรถ และฝุ่นจากการก่อสร้าง BTS เยอะมาก แต่พอได้ใช้เครื่องฟอกอากาศจาก Blueair รู้สึกได้เลยว่าอาการคัดจมูกและแพ้ฝุ่นน้อยลง ปริมาณฝุ่นในห้องก็ลดตามลงไปด้วย กลิ่นอับต่างๆ ที่เคยมีก็หายไป ข้อดีอีกอย่างคือตัวนี้เค้าสามารถเปิดทิ้งได้นาน เพราะกินไฟน้อยมาก

ที่ชอบที่สุดคือการเชื่อมต่อ ควบคุมเครื่องผ่าน WIFI และแอปพลิเคชั่น Blueair Friend ที่สะดวกสุดๆ สามารถดูค่าอากาศต่างๆได้แบบละเอียด และฟังก์ชั่นการตั้งค่าก็มีมาให้ใช้ครบถ้วน


ใครที่กังวลกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังเป็นอันตรายกับร่างกายของเราในตอนนี้ หรืออยากซื้อไว้เป็นทางเลือกในการรักษาสุขภาพให้กับคนในครอบครัว บอกเลยว่า เครื่องฟอกอากาศ Blueair ตัวนี้ ตอบโจทย์คุณแน่นอนครับ

ราคา : 38,400 บาท
หรืออยากดูรุ่นอื่นๆ สอบถามรายละเอียดกับทางแบรนด์โดยตรง ก็สามารถดูได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/Blueairthailand/
Web Site : https://www2.blueair.com/th/