หน้ากระจ่างใส ไร้สิว ด้วยน้ำตบยางพารา APARA The First Care Para Activating


สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน ใกล้จะสิ้นปีแบบนี้ เฟรมเลยอยากมาอัพเดตสกินแคร์ตัวใหม่ ที่เฟรมได้ลองใช้แล้วชอบมากๆ จริงๆเฟรมได้ยินชื่อของแบรนด์ APARA มาสักพักแล้ว จนได้มีโอกาสมาลองใช้จริงๆ เป็นน้ำตบที่มีจุดเด่น เพราะเป็นน้ำตบจากยางพารา ที่มีการวิจัยของสารสกัด จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์รวมกับศูนย์ความเป็นเลิศทางชีววิทยาศาสตร์


ซึ่งก่อนที่เฟรมจะได้มาทดลองใช้ ก็ได้ศึกษาข้อมูลมาพอสมควร จนได้ทราบว่า น้ำตบของ APARA เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในกลุ่ม essence ที่เป็นสูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม และไม่ใส่สารกันเสียในกลุ่มพาราเบน


ประสิทธิภาพของสารสกัดจากเซรั่มน้ำยางพารา

  • เป็นสารต้านการขนถ่ายเม็ดสีจากเซลล์สร้างเม็ดสีไปยังเซลล์ผิว (ช่วยไม่ให้ผิวหมองคล้ำ)

  • สาร Super Anti-Oxidant สามารถทำลายทั้งฤทธ์ของอนุมูลอิสระ ของออกซิเจน และไนโตรเจน

  • สารน้ำตาลในกลุ่มต่างๆ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นดูเต่งตึงขึ้น

  • สารแอลฟาและเบต้าไฮดรอกซิแอซิด เอื้อต่อการหลุดลอก ของเซลล์ผิวที่ตายให้ง่ายขึ้น

  • กรดอะมีโน 1 ชนิด รวมทั้งชนิดที่ใช้สำหรับสร้างโปรตีนเคราติน และดอลลาเจนเพื่อสุขภาพที่ดีของเซลล์ผิว

  • แร่ธาตุสำคัญ เช่น สังกะสี โครเมียม ทองแดง ฯลฯ ที่เอื้อต่อกระบวนการปรับปรุงสุขภาพผิว




และคุณสมบัติของน้ำตบยางพาราตัวนี้ เค้ามีมากมายเลยครับ ประกอบด้วยสารสกัด Hevea Brasiliensis Extract จากเซรั่มน้ำยางพารา ที่ผ่านกระบวนการวิจัย และพัฒนาแล้ว นอกจากจะบำรุงผิวหน้า ให้ดูกระจ่างใส เค้ายังมีคุณสมบัติ ในการฟื้นบำรุง เพิ่มความสว่าง ให้ฝ้าดูจางลง ที่เฟรมชอบมากๆคือ เค้ามีส่วนช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นกับผิวหนัง ให้ดูเต่งตึง (ใช้ก่อนแต่งหน้า เมคอัพจะติดทนดีมากกก) ที่สำคัญ เค้ามีแร่ธาตุที่ช่วยลดการเกิดสิว และช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า



ถ้าทุกคนสังเกตุที่ดีไซน์ของขวดและกล่องดีๆ จะเห็นว่ามีลายพาด ที่เป็นเส้นขีดๆ อันนี้ทางแบรนด์ตั้งใจให้เป็นเส้นรอยกรีดยางของต้นพารานะครับ แล้วทำไมทางแบรนด์ ถึงเลือกใช้ยางพาราในการสกัดออกมาเป็นน้ำตบให้เราได้ลองใช้กัน วันนี้เฟรมหาคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว



จุดเริ่มต้น ต้องย้อนไปเมื่อปี 2010 มีนักวิทยาศาสตร์ทางด้านชีวเคมีคนหนึ่ง ได้เริ่มแสวงหาสารสกัดใหม่มากว่า 20 ปี ที่สามารถช่วยฟื้นฟูความงามให้ทุกคนได้อย่างแท้จริง จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอเดินทางผ่านสวนยางพารา และได้สังเกตเห็นรอยแผลจากการกรีดบนต้นยางพารา ที่สามารถสร้างเนื้อเยื่อ และฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วจากการกรีดของเกษตรกร


ในที่สุดน้ำยางพาราบริสุทธิ์ จึงถูกนำไปยังห้องทดลอง จนได้พบว่า ในยางพาราประกอบไปด้วยสารพฤษเคมีมากมาย แต่มีเพียง 0.48% ในน้ำยางพารา ที่ซ่อนคุณสมบัติในการฟื้นฟูผิวอ่อนเยาว์ กระจ่างใสไว้ได้ และการค้นพบในครั้งนี้ จึงทำให้เกิด APARA น้ำตบยางพาราที่ให้พวกเราได้ใช้กันทุกวันนี้



ภายในน้ำตบ APARA จะมีสารสกัดหลักอื่นๆ นอกจากยางพารา ที่มีประโยชน์ต่อผิวอีกมากมายเลยครับ

ไม่ว่าจะเป็น


Witch hazel extract ที่มีสารสำคัญกลุ่ม Tannin ตัวนี้มีส่วนช่วยควบคุมความมัน รูขุมขนดูกระชับ

Rose flower oil เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่ช่วยในการแต่งกลิ่น

Chamomile extract ช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการระคายเคือง

Sodium PCA ตัวนี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เป็นส่วนหนึ่งให้ผิวได้ปรับสมดุลความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ (NMF)

Centella asiatica extract หรือสารสกัดจากใบบัวบก ที่ขึ้นชื่อเรื่องการสมานแผล รวมถึงลดเลือนการเกิดแผลเป็น รวมถึงมีส่วนช่วยต่อต้านริ้วรอย

Artichoke leaf extract ช่วยยับยั้งเอนไซม์ MMP-1 หรือเป็นการยับยั้งการเสื่อมสลายของคอลลาเจนในผิว ช่วยให้ผิวดูยืดหยุ่น เต่งตึง

Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ลดอาการอักเสบ ให้ผิวดูกระจ่างใส และเป็นตัวช่วยให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงขึ้น

Aloe leaf juice หรือน้ำจากว่านหางจระเข้ มีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และลดอาการอักเสบต่างๆ


ที่สำคัญ น้ำตบยางพารา APARA ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซิลิโคน สารก่อระคายเคือง สีและน้ำหอมสังเคราะห์ รวมถึงสารต้องห้ามอันตรายต่อผิว


เนื้อสัมผัส : เป็นน้ำเหลว สีขาวขุ่น ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ




ที่เก๋ไปกว่านั้น ทางแบรนด์ เค้ามีการวิจัย “คุณสมบัติของสารสกัดจากยางพารา” ที่มีการทดลองในอาสาสมัคร 100 ราย ผลที่ได้คือ


ในกลุ่มคนที่เป็นฝ้า

- ผิวหน้าขาวขึ้น (98.4%)

- ฝ้าแลดูจางลง (96.8%)

- ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น (92.2%)

- ควบคุมความมันบนใบหน้า (53.1%)


ในกลุ่มคนที่เป็นสิว

- สิวลดลง (100%)

- รอยแผลเป็นจากสิวลดลง (86.1%)

- ควบคุมความมันบนใบหน้า (88.9%)


*Source: Thailand Center of Excellence for Life Sciences (TCELS)




วิธีใช้ก็ง่ายมากครับ แค่หยดเอสเซนซ์ลงบนฝ่ามือ แล้วตบเบาๆลงบนใบหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเอสเซนซ์ สามารถใช้ได้ทุกวัน เช้า - เย็น



หลังทดลองใช้ได้ 2 สัปดาห์ อย่างแรกที่เห็นเลยคือ ความมันบนใบหน้าลดน้อยลง เพราะเค้ามีคุณสมบัติควบคุมความมันบนใบหน้า รวมถึงปัญหาสิว และริ้วรอยต่างๆ ก็ดูลดน้อยลง รูขุมขนก็รู้สึกว่ากระชับขึ้น พอรูขุมขนกระชับ เลยทำให้ผิวดูเนียน ละเอียด อิ่มฟู


ใครที่สนใจก็สามารถหาซื้อมาใช้กันได้นะครับ เป็นอีกหนึ่งตัวที่เฟรมทดลองใช้แล้วรู้สึกประทับใจมากครับ เพราะนอกจากจะดูแลผิวได้ดีแล้ว นี่เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของไทย ที่น่าสนับสนุนมากครับ


สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/apara.thailand/

Website : https://apara.co.th/


แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้านะครับ ^^